วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

โครงการสัมมนาเพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานและการแสดงผลงานของ
สภาเกษตรกรจังหวัดกลุ่มภาคกลาง 26 จังหวัด

     นายเสถียร มาเจริญรุ่งเรือง ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี นายสมพงษ์ พงษ์พัว รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี นายธนู พรหมชนะ และนายสมบูรณ์ ประยูรหอม สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนางสมพร โพธิ์ธรรม หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี พนักงานสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมโครงการสัมมนาเพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานและการแสดงผลงานของสภาเกษตรกรจังหวัดกลุ่มภาคกลาง ๒๖ จังหวัด เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง โดยมีน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานในพิธี กล่าวรายงานโดยนายทรงพล พูลสวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอ่างทอง

    นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า “สภาเกษตรกร” เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของเกษตรกรทั้งประเทศ ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องเกษตรกรไทย นำปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการเสนอปัญหาความต้องการ การสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร และองค์กรเกษตรกร พร้อมทั้งนำมาซึ่งความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้สภาเกษตรจังหวัดมีความร่วมมือกันในการมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้เกษตรกร โดยให้คำนึงถึงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรเป็นสิ่งสำคัญ

    “ขอให้สภาเกษตรกรจังหวัด ได้ร่วมมือกันกำหนดเป้าหมาย นำสิ่งที่ดีสู่ผู้บริโภค เพราะต่อไปภายหน้าประเทศไทยจะเป็นครัวโลก กระทรวงเกษตรฯ จึงมุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าที่สะอาดปลอดภัย และได้มาตรฐาน พร้อมทั้งรณรงค์ให้เกษตรกรไทย หันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และพยายามลดการใช้ปุ๋ยเคมีให้น้อยลงในแต่ละปี เพราะปุ๋ยเคมีเป็นตัวการทำลายดิน เพิ่มต้นทุนการผลิต และสร้างหนี้สินให้แก่เกษตรกร โดยขณะนี้ระบบ GAP ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเรา

    ดังนั้น เราทุกคนจึงต้องเพียรพยามปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ทั้งตัวเกษตรกรและผู้บริโภค โดยสภาเกษตรกรจังหวัดเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มเกษตรกร จึงควรผลักดันส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพและปลอดภัย ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการทำเกษตรแบบผสมผสานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรไทยให้ดียิ่งขึ้น

    นอกจากนี้ จะผลักดันให้มีการทำสหกรณ์ซุปเปอร์มาเก็ต เพื่อจำหน่ายสินค้าสหกรณ์ โดยจะประสานร้านค้าสหกรณ์ที่มีอยู่แต่ละจังหวัดมารวมกัน โดยเริ่มที่จังหวัดนครปฐม เป็นจังหวัดแรก เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพของสหกรณ์ได้มากขึ้น และช่วยกระจายรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยด้วย” นางสาวมนัญญา กล่าว

     สำหรับโครงการสัมมนาเพื่อกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงาน และการแสดงผลงานของสภาเกษตรกรจังหวัด ในกลุ่มภาคกลาง 26 จังหวัด เกิดขึ้นจากความร่วมมือของสภาเกษตรกรจังหวัดกลุ่มภาคกลาง โดยเป็นเวทีระดมความคิดร่วมกันของสภาเกษตรกรในภาคกลาง ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการกำหนดทิศทางการทำงานในอนาคตให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นการร่วมกันค้นหาแนวทางในการขจัดอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานและการแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตลอดจนเป็นเวทีนำเสนอผลงานให้สาธารณชนได้รับทราบ ซึ่งผลสำเร็จของงานต่าง ๆ เกิดจากความทุ่มเทเสียสละ เนื่องจากสภาเกษตรกรเข้าถึงและสามารถระบุเป้าหมายที่เป็นปัญหาที่แท้จริงของเกษตรกรได้อย่างตรงประเด็น ส่งผลให้ได้รับการพัฒนาตรงตามแผนงานโครงการของหน่วยงาน

    ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ. 2553 มาตรา 33 กำหนดอำนาจหน้าที่ของสภาเกษตรกรจังหวัด ให้มีการพัฒนาเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรภายในจังหวัด ประสานนโยบายและการดำเนินงานระหว่างองค์กรเกษตรกร เกษตรกร สถาบันวิจัย สถาบันการศึกษาและหน่วยงานของรัฐ เสนอนโยบายและแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม สภาเกษตรกรจังหวัดกลุ่มภาคกลาง จึงได้ดำเนินการจัดประชุมขึ้น เพื่อหาแนวทางการขับเคลื่อนงานให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันและปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กำหนดการจัดประชุม 2 เดือน/ครั้ง โดยได้นำปัญหาของเกษตรกรมาร่วมกันหาแนวทางแก้ไข และนำเสนอต่อสภาเกษตรกรแห่งชาติ

    นอกจากนี้ ในแต่ละจังหวัดยังได้นำแนวทางแก้ไขปัญหาไปปฏิบัติจนเกิดผลงานเป็นรูปธรรม ได้แก่ ปัญหาด้านน้ำ ข้าว สับปะรด อ้อย มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน ตลอดทั้งปัญหาการเช่าที่ดิน ฯลฯ มาเผยแพร่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนา ประกอบด้วย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกลุ่มภาคกลาง รองประธานสภา สมาชิกสภา หัวหน้าสำนักงาน และพนักงานฯ รวม 250 คน โดยจะมีการประชุมขับเคลื่อนงาน การจัดเวทีการเสวนา เรื่อง ผลงานที่เกิดจากการนำแนวทางจากการประชุมร่วมกันไปปฏิบัติ และแนวทางการขับเคลื่อนงานในปี 2563