แนะนำสายพันธุ์ที่ควรปลูก
วิธีการปลูกลำไยจำเป็นต้องศึกษาในเรื่องของสายพันธุ์ให้ดีเสียก่อน
ถ้าไม่ศึกษาให้ดีก่อนปลูกจะทำให้เสียเวลาและโอกาส สายพันธุ์ลำไยมีอยู่มากมายหลายชนิด
สิ่งสำคัญคือการเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และการทำการตลาดในอนาคต
โดยสายพันธุ์ที่จะแนะนำคือพันธุ์พวงมณี เพราะสามารถผลิตให้ออกดอกในช่วงฤดูฝนได้ดี ขนาดผลโต
เมล็ดเล็ก เนื้อแห้งหวานกรอบ และเปลือกหนา
เวลาผลอยู่ที่ต้นถ้าไม่แกะจะไม่มีกลิ่นค้างคาวจึงไม่มารบกวน ต่างกับสายพันธุ์อีดอ
ดอกบานในฤดูฝนถ้าฝนตกลงมาดอกจะล่วงหมด เปลือกบางผลแตกง่าย และเป็นที่ชื่นชอบของค้างคาว
ซึ่งพันธุ์พวงมณีที่แนะนำให้เกษตรกรปลูกนั้นมีเปลือกที่หนาและสามารถผลิตได้ในฤดูฝนแล้วไปเก็บผลผลิตได้ในฤดูหนาว
ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีผลไม้เข้าสู่ตลาดน้อยมาก
การตลาดต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นตลาดจีนตลาดญี่ปุ่นหรือตลาดยุโรปไม่มีผลผลิต
จึงเป็นโอกาสของพี่น้องเกษตรกรในการจำหน่าย นอกจากนี้ด้วยเปลือกที่หนาทำให้เก็บไว้ได้นานหลายวันไม่ต้องอบกำมะถัน
สามารถผลิตแบบปลอดภัยได้ส่งผลดีต่อผู้บริโภคและสินค้ามีมาตรฐานสามารถทำการตลาดได้ทั่วโลก
วิธีการเพาะปลูก
วิธีการเพาะปลูกจะต้องศึกษาในเรื่องพื้นที่
แล้วปรับปรุงให้เหมาะสมกับพื้นที่
ถ้าเป็นดินเหนียวจัดและที่ต่ำให้ทำการยกร่องห่างกัน ๖ เมตรต่อ ๑ ร่อง
จะได้ป้องกันน้ำท่วมขัง ถ้าน้ำท่วมขังจะทำให้ต้นลำไยยืนต้นตาย
ถ้าเป็นดินร่วนปนทรายให้ไถแล้วชักร่องเหมือนชักร่องอ้อย แล้วขุดดินพูนขึ้นเป็นโคกแล้วปลูกบนโคกสันร่อง
อย่าปลูกในร่องน้ำจะแฉะน้ำตาย เพราะช่วงที่ปลูกใหม่ๆต้นลำไยไม่ต้องการน้ำมาก ๒-๓ วัน
จึงให้น้ำครึ่งหนึ่ง ก่อนให้ต้องสำรวจดูก่อนว่าดินนั้นแห้งหรือป่าว
ถ้ายังไม่แห้งอย่าเพิ่งให้น้ำต้องรอให้ดินแห้งเสียก่อนจึงให้น้ำได้
หลังฝนตกให้เกษตรกรออกไปดูตรงต้นลำไยน้ำขังหรือป่าว
ถ้ามีน้ำขังให้ถากดินใส่โคนต้นลำไยให้สูงขึ้นไม่เช่นนั้นต้นลำไยจะตายช่วงปลูกใหม่ๆเกษตรกรจะต้องคอยตรวจดูอย่างสม่ำเสมออย่าให้น้ำแห้งจนเกินไป
และอย่าให้น้ำแฉะมากเกินไป
ถ้าปลูกในหน้าฝนในดินเหนียวให้เกษตรกรพูนโคกดินขึ้นมาเล็กน้อยแล้วจึงปลูกต้นลำไยลงไปเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำแฉะตาย
ระยะการปลูกและการดูแลรักษา
ระยะการปลูกถ้ามีเนื้อที่น้อยให้ปลูก
๖ เมตร x ๖ เมตร ถ้าเนื้อที่มากให้ปลูก ๖ เมตร x ๘ เมตร
จะได้มีช่องเดินเพื่อความสะดวกในการรักษาและเก็บเกี่ยวผลผลิต
เวลาปลูกห้ามใส่ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์ก้นหลุมเป็นอันขาดมิเช่นนั้นจะตายหมด
หลังจากปลูกไปแล้ว ๓ เดือน จึงเริ่มใส่ปุ๋ยเคมีสูตร ๒๔-๗-๗
หรือปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์ได้ ทั้งนั้น แต่ใส่เพียงเล็กน้อยก่อน ต่อไป ๑ เดือนใส่ ๑
ครั้ง เมื่อต้นโตขึ้นจึงเพิ่มปริมาณการใส่ปุ๋ยมากขึ้น เวลาปลูกใหม่ๆหรือต้นยังเล็กอยู่
จะมีตัวเต่าหรือตัวกระเบื้องมากินใบอ่อนในเวลากลางคืน สารชีพภาพฉีดไม่ตายต้องใช้สารเคมีสารไซเปอร์จึงตาย
แต่จะฉีดตอนเวลา ๑ ทุ่ม เพราะตัวเต่ากำลังกินจึงตายหมดพอต้นลำไยโตสูงเสมอหัวคนตัวเต่าก็จะไม่มากินใบอ่อน
การกำจัดเพลี้ยไฟไรแดงและเพลี้ยต่างๆให้ใช้ยาเส้น ๑ ขีด หมักในเหล้าขาว ๑ ขวด
ทิ้งไว้ ๒ คืนขึ้นไปแล้วใช้ผ้าขาวบางกรองคั้นเอาเฉพาะน้ำมาใช้ยาที่คั้นแล้ว ๕๐
ซี.ซี. นำไปผสมน้ำ ๒๐ ลิตร และน้ำส้มส้มควันไม้ ๑๐ ซี.ซี.ฉีดพ่นทุกๆ ๗ วัน
เมื่ออายุของต้นลำไยได้ ๒ ปีถึง ๒
ปีครึ่ง ถ้าต้นสมบูรณ์งามดีก็สามารถที่จะบังคับให้ต้นลำไยออกดอกได้แล้ว
โดยใช้สารโพแทสเซี่ยมครอเรต ๒๐๐ กรัมผสมน้ำ ๔ ลิตร ราดให้รอบใต้ในทรงพุ่ม
หลังจากนั้นจะต้องให้น้ำ ๒-๓ วันต่อครั้งตลอด ๒๕ วัน ต้นลำไยก็จะเริ่มแทงช่อดอกออกมาให้เห็นหลังจากดอกแล้วให้ใช้น้ำยาเส้น+เหล้าขาว+น้ำส้มควันไม้+สาหร่ายเขียวฉีดพ่นทุกๆ
๗ วัน สังเกตดูว่าดอกลำไยออกมายางประมาณ ๓-๔ นิ้ว ให้ใส่ปุ๋ยสูตร ๑๓-๑๓-๒๑
ต้นละไม่เกิน ๑๐๐ กรัม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ดอกแข็งแรงจะได้ติดผลดก
อย่าใส่มากจะทำให้ดอกร่วง พอดอกเริ่มบานให้หยุดการฉีดสารทุกชนิดเพื่อที่จะให้แมลงมาผสมเกสร
เมื่อดอกบานหมดแล้วจึงใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ ใส่เดือนละหนึ่งครั้งๆที่สามให้ใส่ปุ๋ยสูตร
๑๓-๑๓-๒๑ เพื่อเร่งความหวาน หลังจากติดผลการบำรุงรักษาก็ฉีดพ่นเป็นปกติส่วนอาหารเสริมให้ใช้ได้ตามถนัดส่วนการให้น้ำ
๓-๔ วันต่อครั้งหรือดูตามความเหมาะสมไม่ต้องให้น้ำเปียกเสมอบางครั้งต้องปล่อยให้แห้งบ้าง
ลำไยจึงจะโตเร็วดี เมื่อลำไยติดผลแล้วเมล็ดเท่าถั่วเหลืองให้ทำการตัดแต่งกิ่งออกไปบ้าง
ถ้าดกมาเกินไปให้ตัดช่อเล็กทิ้งและตัดปลายช่อใหญ่ทิ้งไปให้เหลือประมาณ ๗๐-๘๐
ผลต่อช่อก็พอจะได้ลำไยที่มีผลขนาดใหญ่เสมอกันหมด เวลาขายจะได้ราคาดีต้นไม่โทรมหลังเก็บเกี่ยว
ถ้าปล่อยไว้มากเกินไป จะทำให้ได้ผลเล็กเวลาขายไม่ได้ราคา แล้วจะทำให้ต้นโทรมปีต่อไปจะให้ผลผลิตน้อย
วิธีการให้ตัดแต่งกิ่งต้นลำไยปีหนึ่งจะตัดแต่งสองครั้ง
ครั้งแรกให้ตัดแต่งหลังจากติดผลแล้วประมาณ ๕ วัน ให้ตัดกิ่งภายในทรงพุ่มออกให้หมด
แล้วตัดกิ่งที่ไม่มีช่อดอกออกไปบ้างเพื่อที่จะให้ภายในทรงพุ่มโปร่ง จะได้ไม่เป็นที่อาศัยของแมลง
และสะดวกในการดูแลรักษา
ครั้งที่สอง
ให้ตัดแต่งหลังจากเก็บผลหมดแล้ว
ในปีแรกเราเพียงตัดกิ่งที่สูงกว่าปกติตัดออกให้ได้ทรงพุ่มกลมสวย หลังจากเก็บผลปีสองก็ทำเหมือนเดิม
หลังเก็บเกี่ยวปีที่สามต้นเริ่มชนกันให้ตัดแต่งเข้าไป ๒-๓ ช่วงใบที่แตกตัดทิ้งออกไป
เพราะหลังจากเก็บผลแล้วต้นลำไยจะผลิใบยอดได้แค่ ๓
รุ่นเท่านั้นเกษตรกรจึงจำเป็นที่จะต้องทำการตัดแต่งลำไยทุกปี
เป็นการควบคุมทรงพุ่มไม่ให้กิ่งยอดลำไยเกยกัน จะทำให้ยอดลำไยไม่ได้รับแสงแดดไม่ออกดอก
ก่อนตัดแต่งให้ใส่ปุ๋ย ๒๔-๗-๗ ต้นละ ๓๐๐ กรัม หรือ ๕๐๐ กรัม
แล้วแต่อายุของต้นเมื่อเกษตรกรตัดแต่งต้นเสร็จแล้วต้นลำไยก็พร้อมที่จะแทงยอดใหม่
พอต้นลำไยผลิยอดครั้งที่ ๒ และ ๓ ให้ใส่ปุ๋ยสูตร ๑๘-๔๖-๐ เป็นการสะสมตาดอก