เกษตรกรต้นแบบรุ่นใหม่จังหวัดกาญจนบุรี

กิจกรรมสร้างเกษตรกรต้นแบบรุ่นใหม่ด้านการจัดการฟาร์ม
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐

นายธีระยุธ   ยางสวย อายุ 43 ปี อยู่หมู่บ้านหนองกลางพง บ้านเลขที่ 49/8 ม.4 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 71110 โทรศัพท์ 081-0079050 “มีความสุขที่ได้ทำการเกษตร ได้อยู่ดูแลครอบครัวไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน” พื้นที่ทำการเกษตรได้แก่ 1.ปลูกข้าว ซึ่งปลูกไว้บริโภคเองในครัวเรือนและที่เหลือก็ขายให้โรงสีข้าว 2.ปลูกมันสำปะหลัง 3.ปลูกอ้อย 4.ปลูกไม้ผลผสมและผักสวนครัวโดยมี ไม้ผลคือ เงาะ ทุเรียน ลำไย มะม่วง ขนุน มะม่วง กล้วย และส้มโอ ซึ่งได้รับจากโครงการปลูกป่าผลาผลเฉลิมพระเกียรติฯ และผักสวนครัวคือ ตะไคร้ และ 5.ไผ่หวาน และมีการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ สุกร เป็ด ไก่ และห่าน ซึ่งผลพลอยได้จากการเลี้ยงสัตว์ก็คือปุ๋ยคอกที่สามารถนำไปใช้ในแปลงปลูกพืชต่างๆ โดยเป็นลดต้นทุนการผลิตและอาหารที่เลี้ยงสัตว์ก็มาจากผลผลิตในทางการเกษตรมีบ่อน้ำไว้ใช้ในการเกษตร มีการเลี้ยงปลาต่างๆไว้บริโภคเองในครอบครัวและญาติพี่น้อง

นายปริญญา ดียิ่ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 275/2 ถ.พระแท่น ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 71130 โทรศัพท์086-6040913 “ทายาทผู้สืบทอดวิชาแพทย์แผนไทยต่อจากคุณหมอสมคิด ดียิ่ง ซึ่งเป็นตาและเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจ (ชุมชนทองพันชั่ง) โดยได้นำนวัตกรรมต่างๆมาใช้ต่อยอด” โดยใช้ประโยชน์จากสมุนไพรในการทำยาเพื่อบำบัดโรคต่างๆ เช่น ต้นทองพันชั่ง ต้นชะนางแดง ต้นเถาเอนอ่อน ฯลฯ ได้แก่ สมุนไพรฟื้นฟูความจำเสื่อม อัมพฤกษ์ ระบายไขมัน บำรุงเส้นเอ็นฯลฯ สมุนไพรนำมาทำยาก็จะได้จากที่ปลูกเองในบริเวณบ้านและสั่งซื้อมาจากที่ต่างๆ ตามท้องถิ่นและจากสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจ (ชุมชนทองพันชั่ง) 

นายสุวงษ์ เรือนแป้น อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่370/4 ม.1 ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี 71210 โทรศัพท์ 087-8029598   เป็นประธานสมาคมแพะของอำเภอเลาขวัญ “ทำการเกษตรเพราะอยากเดินตามรอยเท้าพ่อหลวงอยู่อย่างพอเพียง ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เป็นรายได้หมุนเวียนในครอบครัว”โดยปลูกพืช ได้แก่ 1.ปลูกข้าว ซึ่งจะปลูกในช่วงนาปี ไว้บริโภคเองและที่เหลือขายให้กับโรงสี  2. ปลูกมันสำปะหลัง เลี้ยงสัตว์ ได้แก่ 1.สุกรตัวผู้ ไว้เป็นพ่อพันธุ์ 2.แพะ ซึ่งเคยนำแพะไปประกวดจนได้รางวัลมาแล้ว 3.ห่าน และ 4.ไก่ชน ซึ่งมีการขุดบ่อน้ำไว้ใช้ในการเกษตร พื้นที่ 1 ไร่และในบ่อน้ำนั้นก็มีการเลี้ยงพืชน้ำคือต้นกระจับโดยจะเก็บหัวกระจับแล้วนำไปต้มขายบริเวณถนนหน้าบ้านซึ่งเป็นรายได้รายวันให้กับครอบครัวได้

นางสุพัตทรา วิเศษสิงห์ อายุ 48 ปี อยู่หมู่บ้านหนองถ่าน บ้านเลขที่ 219 ม.12 ต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี 71140 โทรศัพท์ 061-4211136“ทำการเกษตรเพราะไม่ต้องไปเป็นลูกน้องใคร ได้ดูแลคนในครอบครัว มีความภาคภูมิใจที่ได้เดินตามรอยเท้าของพ่อหลวง มีกินมีใช้อยู่อย่างพอเพียง” โดยปลูกพืช ได้แก่ 1.ข้าว โดยทำนาปีละ 2 ครั้ง ซึ่งปลูกไว้เพื่อบริโภคเองและขายเป็นข้าวสารให้กับผู้ที่มารับซื้อเป็นกระสอบ 2.โรงเรือนเลี้ยงเห็ดภูฏานขายให้กับคนที่อยู่ในหมู่บ้านและแม่ค้าในตลาด 3.ปลูกพืชดาวเรืองไว้ขายดอกตามงานไหว้เจ้าและส่งแม่ค้าในตลาดใกล้บ้าน 4.พืชผักสวนครัวไว้บริโภคเองในครัวเรือน และมีบ่อน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรตลอดทั้งปี 

นางกัลยา ส่องสว่างอายุ 51 ปี ที่อยู่ 123/9 ม.5 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180 โทรศัพท์092-4629292 เป็นประธานกลุ่มรวมแม่บ้านเกษตรสะพานลาว “ทำการเกษตรแบบพอเพียง กินที่ปลูกปลูกที่กิน มีความสุขความสบายใจไม่ต้องไปเป็นลูกน้องใคร ภาคภูมิใจที่ได้เห็นผลผลิตที่ออกมาจากพืชและสัตว์เลี้ยงที่เราได้ดูแลเอาใจใส่”ปลูกพืช 1. ข้าวไร่ ซึ่งปลูกไว้บริโภคเองและนำมาเลี้ยงไก่ 2.ยางพารา เป็นรายได้หลักที่นำมาใช้จ่ายในครัวเรือน 3.ไม้ผลผสม โดยมี ทุเรียน เงาะ ส้มโอ ขนุน กล้วย มะพร้าว และมะนาว ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับจากโครงการปลูกป่าผลาผลเฉลิมพระเกียรติฯ และเลี้ยงสัตว์ 1.ไก่ไข่ ซึ่งเลี้ยงไว้บริโภคเอง 2. ไก่ชน น้ำที่ใช้ทางการเกษตรใช้จากแม่น้ำ 

นางสาวจิรนันทร์ ดงขันตะ อายุ 27 ปีที่อยู่ 98/2 ม.2ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี71260 โทรศัพท์ 084-5724726   “ทำอาชีพเกษตรกรเพราะมีอิสระได้ดูแลครอบครัว ได้ความสบายใจ เป็นเจ้านายตัวเอง สร้างเนื้อสร้างตัวจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง นำความรู้ที่ได้เรียนในสาขาสัตวศาสตร์มาใช้ในฟาร์มของตัวเอง ได้รับประทานอาหารที่เราทำเองซึ่งมีความสะอาดปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ” โดยทำการเกษตรได้แก่ 1.ข้าว ทำนาปีปลูกข้าวหอมมะลิไว้บริโภคในครัวเรือน 2.หญ้าเนเปียร์ ปลูกไว้เลี้ยงโคนมและโคเนื้อในฟาร์ม และขายให้กับฟาร์มอื่นๆ 3.ไม้ผลผสม ได้แก่ กล้วย ขนุน มะม่วง ลำไย เงาะ และทุเรียน ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับมาจากโครงการปลูกป่าผลาผลเฉลิมพระเกียรติฯ 4. เลี้ยงสัตว์ ได้แก่ โคนม โคเนื้อ โคเนื้อ สุกร ไก่ไข่ ไก่พื้นบ้าน ปลาดุก และกบ ซึ่งเป็นฟาร์มที่ครบวงจรโดยอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน

นายสมบูรณ์ ประยูรหอม อายุ 55 ปี ที่อยู่ 180 ม.4 ต.วังไผ่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี 71150 โทรศัพท์ 089-9124856“ทำอาชีพเกษตรกรเพราะอยากมีคุณภาพชีวิตทีดีบริโภคอาหารที่ดีมีสุขภาพที่ดี น้อมนำพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ โดยทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งทำให้พื้นที่มีความยั่งยืนและอยู่อย่างพอเพียง” โดยทำการเกษตรไร่นาสวนผสม ได้แก่ 1.ข้าว ทำนาปีปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวไรท์เบอรี่ไว้บริโภคในครัวเรือน 2.มันสำปะหลัง 3.ไม้ผลผสม ได้แก่ กล้วย มะนาว มะละกอ 4. พืชผักสวนครัว ได้แก่ พริก ตะไคร้มะเขือ ปลูกไว้บริโภคเองและที่เหลือขายให้กับคนในหมู่บ้าน โดยเป็นผักที่ปลอดสารพิษ 

นายสมชาย อินทรชา อายุ 34 ปี ที่อยู่ 27 ม.15 ต.วังหนองปรือ  อ.หนองปรือ  จ.กาญจนบุรี 71220 โทรศัพท์ 086-0799950คนรุ่นใหม่ที่ต่อยอดธุรกิจของครอบครัว “ทำอาชีพการเกษตรเพราะได้สืบทอดกิจการและดูแลครอบครัวอย่างใกล้ชิดได้” โดยทำการเกษตร 1.ปลูกขนุนขายขนุนสดให้กับพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อในสวน และนำขนุนที่มีอยู่ในสวนไปแปรรูปเป็นขนุนทอดส่งขายตามออร์เดอร์ ซึ่งสร้างรายได้ได้ดีทีเดียว 2.เลี้ยงไก่ชน 150 ตัว

นายรุ่ง ลำเลิศ อายุ 41 ปี ที่อยู่ 13/5 ม.7 ต.หนองกร่าง  อ.บ่อพลอย  จ.กาญจนบุรี 71220 โทรศัพท์ 083-3131216  “ทำอาชีพการเกษตรเพราะอยากเป็นเจ้านายตัวเอง มีทีดินและตลาดที่เหมาะสมในการปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง” โดยทำการเกษตร 1.ปลูกอ้อยและ 2.ปลูกมันสำปะหลัง ส่งขายให้กับโรงงานที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน

นางสาวประภาวรรณ กลิ่นนิ่ม อายุ 42 ปี ที่อยู่ 79/2 ม.5 ต.วังศาลา  อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110 โทรศัพท์ 089-9024912 และ 098-2869296  “ทำอาชีพการเกษตรเพราะมีอิสระในการทำงานเหนื่อยกายแต่สบายใจและได้ดูแลครอบครัวอย่างใกล้ชิด” โดยทำการเกษตร 1.ปลูกอ้อย 2.ปลูกมันสำปะหลัง 3.ข้าวโพดฝักอ่อน 4.เผือก และ 5.ไม้ผล คือ กล้วยและฝรั่ง โดยปลูกในที่เดียวกัน 

นายประสิทธิ์ ทวีศรี อายุ 54 ปี ที่อยู่ 111 ม.2 ต.ท่ากระดาน  อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250 โทรศัพท์ 081-2942518  “อยากปลูกพืชไว้เมื่อยามแก่ชรามีผลผลิตไว้บริโภค และสามารถส่งต่ออาชีพให้ลูกหลานเพื่อจะได้ไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน และได้ดูแลเรายามแก่ชรา” โดยทำการเกษตร 1.มันสำปะหลัง 2.แก้วมังกร และจะเตรียมพื้นที่เพื่อปลูกไม้ผลที่จะได้ในโครงการปลูกป่าผลาผลฯ

นายสมาน พิมพิลา อายุ 55 ปี ที่อยู่ 85/2 ม.2 ต.ปลังเผล  อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 71240 โทรศัพท์ 082-2985425“อาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพที่ยั่งยืนสามารถเลี้ยงครอบครัวได้และไม่ต้องไปทำงานที่อื่น” โดยทำการเกษตร 1.ปลูกยางพาราเป็นรายได้หลัก และ2.ไม้ผลที่จะได้ในโครงการปลูกป่าผลาผลเฉลิมพระเกียรติฯ และมีโรงผลิตปุ๋ยอินทรีย์เป็นของตัวเอง

นายอลงกรณ์ จันทร์ศิริ อายุ 43 ปี ที่อยู่ 295 ม.9 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150โทรศัพท์ 097-2604532“เพราะมีที่ดินในการทำการเกษตรเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้กลายเป็นของคนอื่น และมีความมั่นใจและศรัทธาในศักยภาพของตัวเองว่าทำการเกษตรได้ ” โดยทำการเกษตร ปลูกพืช ได้แก่ 1.ปลูกยางพาราเป็นรายได้หลัก 2.ปลูกปาล์มน้ำมัน 3.กาแฟ 4.กล้วย 5.เงาะที่จะได้ในโครงการปลูกป่าผลาผลเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่เดียวกัน และเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ 1.สุกร 2. เป็ด และ3.ปลาดุก โดยพืชและสัตว์ จะเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เช่น ปุ๋ยในการเกษตรก็มาจากมูลสัตว์ที่เลี้ยงไว้ อาหารของสัตว์ก็มาจากปาล์มน้ำมันและกล้วยที่ปลูกไว้