วิธีการปลูกมะม่วง

พันธุ์ที่ตลาดต้องการ
1. เขียวเสวย   2. น้ำดอกไม้สีทอง และน้ำดอกไม้ เบอร์ 4   3. ฟ้าลั่น  4. แก้วลืมรัง  5. มันเดือนเก้า    
6. อกร่อง   7. มหาชนก   8.โชคอนันต์
วิธีการปลูก
1. เตรียมดินให้ดีก่อน
2. ขุดหลุมกว้าง 50*50 ซ.ม.
3. ระหว่างต้น 4-6 เมตร
4. ระหว่างแถว 6-8 เมตร
5. ใช้เม็ดมะม่วงแก้วปลูกเป็นต้นตอแล้วเปลี่ยนยอดตามพันธุ์ที่ต้องการ เมื่อต้นตออายุได้ 1 ปีกว่า(การปลูกด้วยเมล็ด และใช้วิธีเปลี่ยนยอด)
6.  การใช้กิ่งพันธุ์ที่ทาบกิ่งปลูก  ควรฉีกถุงออก  แล้วปลูกให้เสมอกับดินด้านบน  อย่าปลูกลึกเพราะจะทำให้รอยทาบเป็นเชื้อรา  เน่าตายได้  เมื่อปลูกได้  1-2  เดือน  ให้แก้พลาสติกที่โคนต้นออก



วิธีการเลือกกิ่งปลูก
1. ใช้กิ่งกระโดง คือ ต้นเดียว จะโตเร็วกว่ากิ่งน้ำค้าง


การดูแลรักษา
1. ช่วง 1 ปี แรก ให้น้ำสม่ำเสมอ
2. ฉีดยาในช่วงแตกใบอ่อน
3. ใส่ปุ๋ย 15-15-15 ปีละ 6-12 ครั้งโดยใช้อายุหารสองเช่น อายุ 3 ปีให้ใช้ปุ๋ยเคมีเพียงปีละ 1.5 กก.
4. ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก 1-2 ครั้งต่อปี
การตัดแต่งกิ่ง
1. ตัดกิ่งกระโดงกับกิ่งซับซ้อนออกเพื่อให้โปร่งอาการถ่ายเทได้สะดวก
2. ตัดกิ่งยอดสุดออก เพื่อให้แสงแดดส่องถึงโคนต้นเป็นทรงฝาชีหงาย
แมลงต่าง ๆ และยาที่ใช้
1. เพลี้ยจักจั่นมะม่วงใช้คอนฟรีดรอ 10 ซีซี น้ำ 20 ลิตร
2. เพลี้ยแป้ง ใช้ มาลาไธออน + ไวย์ออยหรือปิโตเลี่ยมออย
3. หนอนคืบ บุ้งร่าน ใช้ ไซเปอร์ 35%
4. แมลงวันทอง ใช้ ไดเมทโทเอท- โอเมทโทเอท
5. แมงค่อมทอง ใช้ ไซเปอร์ 35%
6. ผีเสื้อมวนหวานใช้ไซเปอร์ 35 +ปิโตเลี่ยมออย
7. เพลี้ยไฟใช้อบาแม็คติน + คอนฟรีดรอ หรือไดคาโชล
8. ไรแดง ใช้ โอไม้
9. หนอนเจาะลำต้น ใช้มีด หรือของแหลมจัดการหรือใช้สารเคมีฉีดใส่รูแล้วปิดปากรูด้วยดินเหนียว

โรคต่าง ๆ
1. แอนแทรคโนส
2. ราแป้ง
               **ยาที่ใช้  ใช้คาเบ็นดาซิม , อมิสตา,โปรโคลาส,แอนทราโคล**
สารบังคับมะม่วง
1.แพ็คโคบิวทราซอล 10%
   แพ็คโคบิวทราซอล 15 %
ใช้ผสม น้ำราดโคนต้น
-  พันธุ์เบาใช้ 10 กรัม ต่อเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร
-  พันธ์หนัก ใช้ 15 กรัม ต่อเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร
ยาดึงช่อ
ไทโอยูเรีย ใช้ 1 ก.ก. ต่อน้ำ 200 ลิตร หรือไทโอยูเรีย 3 ขีด+โปแตสเซี่ยมไนเตรท 3 กก ต่อน้ำ 200ลิตร
วิธีการราดสารมะม่วง
- ก่อนราดสารควรให้น้ำมะม่วงให้ชุ่มอย่างน้อย 7-10 วัน
- หลังราดสารรดน้ำต่ออีก 7-10 วัน
- ให้ใส่ปุ๋ยสะสมเพื่อสร้างตาดอก สูตร 8-24-24 หรือ12-24-12 1-2 ครั้ง
- มะม่วงพันธุ์เบาใช้สาร 10 กรัมต่อเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร
- มะม่วงพันธุ์หนักใช้ 15 กรัมต่อเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร
- หลังราดสารพันธุ์เบา 45-60 วันเริ่มดึงช่อด้วย ไทโอยูเรีย
- หลังราดสารพันธุ์หนัก 60-75 วัน เริ่มดึงช่อด้วยไทโอยูเรีย
- ดึงช่อด้วย ไทโอยูเรีย 1 ก.ก. ต่อน้ำ 200 ลิตร หรือ 100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
- หลังดึงช่อ 11-20 วัน เริ่มออกช่อช่วงนี้เริ่มให้น้ำ ให้ปุ๋ย


การดูแลรักษาช่อดอก
        ช่วงเดือยไก่  - ใช้ยาฆ่าเชื้อรา คาเบ็นดาซิม ,  หรืออมิสตา
                               -  แมลง ใช้ อบาแม็คติน + มาลาไทออน 
                               -  ธาตุอาหารเสริม  ใช้ตามฉลากข้างขวด 
                               -  แคลเซี่ยมโบรอน  ตามอัตราข้างขวด 10-20 ซีซี    ฉีดทุก 7-10 วัน
ช่วงดอกบาน 7 วัน หยุดยาฆ่าแมลง ใช้เพียงฮอร์โมนกับยาเชื้อรา เพื่อแมลงที่ผสมเกสรจะได้ไม่ตาย
ช่วงเก็บขาย  - เก็บขายสำหรับทำมะม่วงยำ เมื่ออายุได้ 60-75 วัน เก็บบ่มสุก ช่วงอายุ 100-120 วัน โดยใส่ปุ๋ยหวานก่อนเก็บ 1 เดือน ใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 8-24-24 ต้นละ 300-600 กรัม จะทำให้มะม่วงหวานและน้ำหนักดี
หมายเหตุ  การใส่ปุ๋ยมะม่วง  ให้เอาอายุ หาร 2 เช่นอายุ  3  ปี  จะใส่ปุ๋ยเคมีตลอดทั้งปี 1½ ก.ก.  แต่ถ้าต้นที่อายุ  10  ปี  ขึ้นไปให้ใช้ปุ๋ยไปเกิน  5  ก.ก.  ต่อปี


วิธีบ่มมะม่วง
                เลือกเก็บลูกแก่ก่อน จากนั้นหักจุกแล้วคว่ำหัวจุกลงบนกระสอบป่าน หรือหักจุกคว่ำใต้โคนต้น 1 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการเปียกน้ำ น้ำค้าง ตอนบ่ม ถ้าเปียกต้องทำให้แห้งก่อนและห้ามวางตากแดดก่อนบ่มเพราะจะทำให้ตายนึ่ง
การใช้แก๊สบ่ม
                บ่มในลังผลไม้จุ 25 ก.ก. ต่อลัง กรุกระดาษทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 3 แผ่น ใช้แก๊สใส่ก้นลัง 2 ห่อ ห่อละ 1 ก้อน ขนาดไข่ไก่เล็ก แก๊ส 1 ก.ก. บ่มมะม่วงได้ 250-300 ก.ก บ่ม 3 คืน เริ่มเหลือง บ่ม 4 คืน เหลือง สวย หวาน บ่ม 5 คืน งอมมาก
การทำมะม่วงคุณภาพเพื่อการส่งออก
                เริ่มห่อผลเท่าไข่ไก่ ถุงห่อมะม่วงราคาถุงละ 1.40 บาท ห่อได้ 3 ครั้ง ขนาด 300 กรัม ขึ้นไป ผิวสวย ก็ส่งต่างประเทศได้ กิโลกรัมละ 35-70 บาท พื้นที่จำนวน  1 ไร่ปลูกได้ 50-100 ต้น
ต้นพันธุ์
                ไร่ละ 50 ต้น ต้นละ 50 บาท  เป็นเงิน 2,500 บาท ถ้าไร่ละ 100 ต้น ต้นละ 50 บาท เป็นเงิน 5,000 บาท
สรุป
                ต้นทุนการทำมะม่วง 1 ไร่ ลงทุน 10,000-15,000 บาท รวมทั้งการวางระบบน้ำด้วย ถ้าเป็นพื้นที่สูงไม่ต้อง
ยกร่อง ที่ต่ำจึงจะยกร่อง
รายรับต่อพื้นที่ 1 ไร่ จากปีที่ 3 ไปแล้ว คือ 15,000-70,000 บาท



ข้อดีของการทำสวนมะม่วง

                มะม่วงเป็นพืชประธานอยู่กลางแปลง ภายใน 30 วันขึ้นไปก็จะมีรายได้จากการปลูกผักต่าง ๆ ช่วงที่มะม่วงยังเล็กอยู่เป็นการดูแลให้มะม่วงได้น้ำได้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ มะม่วงก็จะโตเร็วด้วย บางครั้งเมื่อมะม่วงอายุ 2 ปี ก็เริ่มให้มีผลได้ เพราะว่าต้นสมบูรณ์ เอาไว้ต้นละ 10 กว่าลูก ก็จะเริ่มได้เงิน ปลูก 1 ครั้งอยู่ได้ถึง 20 กว่าปี



นายบุญช่วย  ปั้นหยัด   084-7592025